วิธีตรวจเช็กเต้านมเบื้องต้น ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมควรตรวจเมื่อใด

  •               1.ตรวจเต้านมด้วยตนเอง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  เมื่ออายุ 20 ปี ขึ้นไป
  •               2.ตรวจเต้านมโดยแพทย์ เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ควรรับการตรวจทุก 3 ปี และหลังจากอายุ 40 ปี ควรได้รับการตรวจทุก 1 ปี
  •               3.ควรทำแมมโมแกรม และ/หรือ อัลตราซาวน์ ในช่วงอายุ 35- 40 ปี 1 ครั้ง  หลังจากอายุ 40 ปี เป็นต้นไป ควรทำทุก 1 – 2 ปี
  •               4.ในผู้ที่มีประวัติญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งรังไข่ ควรเริ่มทำการตรวจตั้งแต่อายุที่ญาติเป็น ลบออก 5 ปี
  •               5.ในรายที่มีความเสี่ยงสูง หรือเต้านมมีความหนาแน่นมาก การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) จะช่วยให้มีการค้นพบมะเร็งได้มากขึ้นกว่าการทำแมมโมแกรม การตัดสินใจว่าจะตรวจหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง

ตรวจเต้านมด้วยตนเองง่ายๆ

  •               1.ยืนหน้ากระจก แล้วดูที่เต้านมทั้ง 2 ข้าง แล้วสังเกตว่า ขนาด รูปร่าง สีผิว ตำแหน่งของเต้านม หัวนม เป็นอย่างไร และควรเทียบการเปลี่ยนแปลงกับเดือนก่อน
  •               2.หลังจากนั้นให้ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะทั้ง 2 ข้าง แล้วดูที่เต้านมอีกครั้ง ค่อยๆหมุนตัวช้าๆเพื่อที่จะดูบริเวณด้านข้างของเต้านม
  •               3.มือเท้าเอว และโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ดูความเปลี่ยนแปลงซ้ำอีกครั้ง
  •               4.ใช้นิ้วมือบีบที่หัวนมเบาๆ ดูว่ามีเลือด หนอง หรือน้ำไหลออกจากหัวนมหรือไม่
  •               5.เริ่มคลำเต้านม ให้คลำตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าลงมา ใช้มือซ้ายคลำเต้านมข้างขวา ให้ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางทั้ง 3 นิ้ว ค่อยๆกดลงบนผิวหนังเบาๆ และกดแรงขึ้น จนกระทั่งสัมผัสกระดูกซี่โครงคลำเต้านมให้ทั่วทิศทาง การคลำทำได้หลายแบบ สิ่งที่สำคัญคือต้องคลำให้ทั่วเต้านมไปจนถึงบริเวณรักแร้ใต้วงแขน หลังจากนั้นให้เปลี่ยนคลำอีกข้างแบบเดียวกัน
  •               6.เมื่อเสร็จการคลำในท่ายืนแล้ว  ให้เปลี่ยนเป็นคลำในท่านอนใช้หมอนหนุนไหล่ข้างที่จะคลำ แล้วคลำซ้ำเหมือนท่ายืน

เจอแบบนี้ให้รีบมาพบแพทย์

  •           - ก้อนเนื้อเต้านมหนากว่าปกติ Lump or thickening (breast, underarm)
  •           - ผิวหนังแดง หรือร้อน
  •           - รูขุมขนใหญ่ขึ้นเหมือนผิวส้ม
  •           - ผิวหนังบุ๋ม  หรือมีการหดรั้ง
  •           - มีการนูนของผิว
  •           - ปวดกว่าปกติที่เคย
  •           - คัน มีผื่น โดยเฉพาะบริเวณหัวนม และฐานรอบหัวนม
  •           - หัวนมบุ๋ม
  •           - การชี้ของหัวนมเปลี่ยนทิศทาง
  •           - เลือดไหลออกจากหัวนม
  •           - มีแผลที่หายยากของเต้านม หัวนม

 

 

 

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

แพ็กเกจและโปรโมชั่น

แพ็กเกจตรวจอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ Ultrasound 4D
0

บาท

ดูรายละเอียด
แพ็กเกจคลอดเหมาจ่าย Delivery Package
0

บาท

ดูรายละเอียด

บทความสุขภาพ

คลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด แบบไหนดีกว่า?
คลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด แบบไหนดีกว่า?

       คลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอด คุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ใน “การคลอด” มักจะสงสัยว่า คว...
ดูรายละเอียด

เช็คลิสต์…สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนคลอด
เช็คลิสต์…สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อนคลอด

ตลอดการตั้งครรภ์ เเม้จะดูเเลตัวเองให้ดี หรือมีกำหนดวันคลอดแน่นอนแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจ เราขอแนะนำให้คุณแม่เตรียมตัวคลอดกันไว้แต่เนิ่นๆ เพราะการ...
ดูรายละเอียด

ถ้าคุณแม่ ไม่ฝากครรภ์ มีผลเสียต่อลูกจริงมั้ย
ถ้าคุณแม่ ไม่ฝากครรภ์ มีผลเสียต่อลูกจริงมั้ย

การฝากครรภ์ (Antenatal Care) คือ การดูแลสุขภาพครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงก่อนคลอด ทั้งของคุณแม่และทารกในครรภ์ ซึ่งจะเป็นการดูแลแบบครอบคลุม ทั้งด้า...
ดูรายละเอียด

NIPT คืออะไรแล้วทำไมถึงควรตรวจ  ???
NIPT คืออะไรแล้วทำไมถึงควรตรวจ ???

การตรวจ NIPT หรือ Non-Invasive Prenatal Testing

     คือการตรวจคัดกรองหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์มารดา มีความแม่นยำสูง โดยกา...
ดูรายละเอียด

วิธีตรวจเช็กเต้านมเบื้องต้น ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
วิธีตรวจเช็กเต้านมเบื้องต้น ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมควรตรวจเมื่อใด               1.ตรวจเต้านมด้วยตนเอง อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง  เมื่อ...

ดูรายละเอียด
วิธีดูแลสุขภาพหลังคลอด
วิธีดูแลสุขภาพหลังคลอด

 

หลังจากที่อุ้มท้องมานานถึง 9 เดือน ผ่านการฝากครรภ์นับตั้งแต่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เข้ารับการตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ปฏิบัติตนตามที่คุณหมอแนะ...

ดูรายละเอียด