“มะเร็งเต้านม” เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในผู้หญิง
มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม เซลล์เหล่านี้มีการแบ่งตัวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้อาจมีการแพร่กระจายไปตามทางเดินน้ำเหลือง ไปสู่ต่อมน้ำเหลือง หรือแพร่กระจายไปสู่อวัยวะที่อยู่ห่างไกล เช่น กระดูก ปอด ตับ เป็นต้น การตรวจพบมะเร็งในระยะแรกจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จได้
เมื่อไหร่.....ที่ควรตรวจ !
- เมื่อเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
- เมื่อเป็นบุคคลที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม
- เมื่อคลำพบก้อนเนื้อ มีเลือดออกที่หัวนม หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ที่บริเวณเต้านม
- เมื่อเป็นผู้ที่มีบุตรหลังอายุ 30 ปี หรือไม่เคยมีบุตร
- เมื่อเป็นผู้ที่มีประจำเดือนก่อนอายุ 12 ปี หรือประจำเดือนหมดช้าหลังอายุ 55 ปี
- เมื่อเป็นผู้ที่รับประทานฮอร์โมนเพศหญิง หรือผู้ที่ได้รับยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่อง ดิจิตอล แมมโมแกรม (Digital Mammogram)
เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่ไม่สามารถตรวจพบจากการตรวจร่างกาย สามารถมองเห็นลักษณะความเข้มทึบที่ต่างกันของเนื้อเยื่อแต่ละชนิด เป็นวิธีที่รวดเร็ว ปลอดภัย และให้ผลได้ชัดเจน
เครื่องดิจิตอลแมมโมแกรมคืออะไร ?
ดิจิตอลแมมโมแกรม คือการตรวจเอกซเรย์เต้านม เป็นการตรวจทางรังสีที่ใช้ปริมาณรังสีน้อยกว่าเครื่องเอกซเรย์ทั่วไป แต่ได้ภาพที่มีความละเอียดสูงและคมชัดมากกว่า ทำให้สามารถค้นหาความผิดปกติได้ตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถเห็นจุดหินปูนในเต้านม ซึ่งบางครั้งมีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถคลำหรือตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์พบ ดังนั้นการตรวจดิจิตอลแมมโมแกรมจึงมีประโยชน์ในการตรวจหามะเร็งเต้านมขนาดเล็ก
การตรวจเต้านมด้วยดิจิตอลแมมโมแกรมดีอย่างไร ?
- ให้ภาพที่มีความละเอียดสูงสามารถตรวจพบมะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก (Early Detection, Save live)
- ปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับจากการถ่ายเอกซเรย์เต้านมด้วย Digital Mammogram ลดลง 30-60 % เมื่อเทียบกับเครื่องเอกซเรย์เต้านมแบบ Analog
- ลดเวลาในการทำ Mammogram เนื่องจากถ่ายภาพได้อย่างต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่ไม่ต้องคอยเปลี่ยนฟิล์มและล้างฟิล์ม
- ผู้ป่วยเจ็บเต้านมน้อยลงและรู้สึกสบายขึ้นขณะทำแมมโมแกรม เนื่องจากมีแผ่นกดเต้านมชนิดพิเศษที่สามารถเอียงตามสัณฐานของเต้านม
- แพทย์ผู้ตรวจเรียกดูภาพได้จากหน้าจอมอนิเตอร์ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอดูจากฟิล์ม และได้ภาพที่มีความคมชัดมากกว่าทำให้ลดการถ่ายเอกซเรย์ซ้ำ
ตรวจเต้านมด้วยตนเองง่ายๆ
- ยืนหน้ากระจก แล้วดูที่เต้านมทั้ง 2 ข้าง แล้วสังเกตว่า ขนาด รูปร่าง สีผิว ตำแหน่งของเต้านม หัวนม เป็นอย่างไร และควรเทียบการเปลี่ยนแปลงกับเดือนก่อน
- หลังจากนั้นให้ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะทั้ง 2 ข้าง แล้วดูที่เต้านมอีกครั้ง ค่อยๆ หมุนตัวช้าๆ เพื่อที่จะดูบริเวณด้านข้างของเต้านม
- มือเท้าเอว และโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ดูความเปลี่ยนแปลงซ้ำอีกครั้ง
- ใช้นิ้วมือบีบที่หัวนมเบาๆ ดูว่ามีเลือด หนอง หรือน้ำไหลออกจากหัวนมหรือไม่
- เริ่มคลำเต้านม ให้คลำตั้งแต่กระดูกไหปลาร้าลงมา ใช้มือซ้ายคลำเต้านมข้างขวา ให้ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางทั้ง 3 นิ้ว ค่อยๆ กดลงบนผิวหนังเบาๆ และกดแรงขึ้น จนกระทั่งสัมผัสกระดูกซี่โครงคลำเต้านมให้ทั่วทิศทาง การคลำทำได้หลายแบบ สิ่งที่สำคัญคือต้องคลำให้ทั่วเต้านมไปจนถึงบริเวณรักแร้ใต้วงแขน หลังจากนั้นให้เปลี่ยนคลำอีกข้างแบบเดียวกัน
- เมื่อเสร็จการคลำในท่ายืนแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นคลำในท่านอนใช้หมอนหนุนไหล่ข้างที่จะคลำ แล้วคลำซ้ำเหมือนท่ายืน
อาการแบบไหน ควรรีบมาพบแพทย์
- ก้อนเนื้อเต้านมหนากว่าปกติ Lump or thickening (breast, underarm)
- ผิวหนังแดง หรือร้อน
- รูขุมขนใหญ่ขึ้นเหมือนผิวส้ม
- ผิวหนังบุ๋ม หรือมีการหดรั้ง
- มีการนูนของผิว
- ปวดกว่าปกติที่เคย
- คัน มีผื่น โดยเฉพาะบริเวณหัวนม และฐานรอบหัวนม
- หัวนมบุ๋ม
- การชี้ของหัวนมเปลี่ยนทิศทาง
- เลือดไหลออกจากหัวนม
- มีแผลที่หายยากของเต้านม หัวนม
การป้องกันมะเร็งเต้านมที่ดีที่สุด คือ การมาตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี และหากมีอาการผิดปกติ ควรรีบมาปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด