หรือในช่วง 1 – 3 เดือนแรกนั้น เป็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณแม่ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพครรภ์จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากการได้รับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพครรภ์แล้ว ยังมีเรื่องที่คนท้องไตรมาสแรกควรระวังอีกด้วย
สำหรับคุณแม่ท้องไตรมาสแรก กิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ที่เคยทำในทุกวันนั้น ยังสามารถทำได้ตามปกติ แต่ก็มีบางกิจกรรม รวมทั้งข้อห้ามสำหรับคนท้อง 3 เดือนแรก ที่คุณแม่ต้องปรับเปลี่ยนหรือหยุดกิจกรรมเหล่านั้นไปในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในท้อง
การดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์จะส่งผลกระทบกับตัวอ่อนในครรภ์ รวมทั้งอาจจะทำให้เด็กที่เกิดมีปัญหาสุขภาพหรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มอาการทารกในครรภ์ได้รับแอลกอฮอล์ (FAS) โดยเด็กที่มีปัญหาสุขภาพนี้ จะมีความผิดปกติบนใบหน้า ไอคิวต่ำ มีปัญหาทางด้านความจำหรือเป็นโรคสติปัญญาบกพร่อง รวมไปถึงมีความบกพร่องในการเรียนรู้และสื่อสาร เป็นต้น
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ควรงดและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ทั้ง 9 เดือน จนไปถึงในช่วงเวลาที่ต้องให้นมลูก
นอกจากแอลกอฮอล์ที่สามารถส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ได้แล้ว เครื่องดื่มจำพวกคาเฟอีนก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ควรงดดื่มในช่วงตั้งครรภ์เช่นกัน เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านสุขภาพของทารก เช่น มีความผิดปกติโดยกำเนิด คลอดก่อนกำหนด ทารกมีน้ำหนักแรกคลอดน้อย เป็นต้น
คาเฟอีนไม่ได้มีเพียงในกาแฟเท่านั้น แต่ยังพบในอาหารและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำอัดลม ไอศครีม ช็อกโกแลต ชา รวมทั้งยาบางชนิด
คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรสูบบุหรี่และควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่มือสอง การสูบบุหรี่หรือสัมผัสกับควันบุหรี่ในช่วงตั้งครรภ์จะส่งผลให้เด็กในครรภ์มีความเสี่ยงและมีปัญหาสุขภาพ เช่น การคลอดก่อนกำหนด โรคไหลตายในทารก ทารกมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ทารกมีปัญหาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เป็นต้น
การทำกิจกรรมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การแช่อ่างน้ำร้อน อบซาวน่า โยคะร้อน การอาบแดด การออกกำลังกายหนัก รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มอุณหภูมิของร่างกายให้สูงขึ้นได้ คนท้อง 1 – 3 เดือน ควรงดการทำกิจกรรมเหล่านี้ออกไปก่อน เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ อาจจะทำให้ร่างกายของคนท้องมีภาวะอันตรายจากความร้อน ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพครรภ์ของคนท้อง
ตลอดช่วงการท้องทั้งในไตรมาสแรกจนไปถึงไตรมาสที่ 3 คุณแม่ท้องควรงดการเล่นกีฬาและกิจกรรมที่มีการปะทะ หรือก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะล้ม เช่น ฟุตบอล ชกมวย สเก็ต สกี ปีนเขา เป็นต้น โดยกิจกรรมหรือกีฬาประเภทนี้ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุและไปกระทบกระเทือนทารกในครรภ์ได้
คนท้องควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดถาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยง เนื่องจากจะก่อให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส หรือโรคขี้แมว โดยเป็นโรคติดเชื้อจากปรสิตอย่าง ท็อกโซพลาสมา กอนดี (Toxoplasma gondii) พบได้ในมูลของสัตว์ เนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ซึ่งหากคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคนี้ ควรเข้ารับการรักษาโดยด่วน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อที่รุนแรงได้
การยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในช่วงตั้งครรภ์ อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ เช่น กล้ามเนื้อตึง ไส้เลื่อน การคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งทารกแรกเกิดมีน้ำหนักน้อย
การเสพสารเสพติด ไม่เพียงแต่จะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นอันตรายกับร่างของคุณแม่และทารกในครรภ์อีกด้วย การเสพสารเสพติดในช่วงตั้งครรภ์จะส่งผลให้ทารกแรกเกิดมีภาวะติดยาแต่กำเนิด (Neonatal Abstinence Syndrome - NAS) พบได้ในแม่ที่ใช้ยาเสพติด เช่น เฮโรอีน เมธาโดน และยาแก้ปวดในขณะตั้งครรภ์
เด็กที่มีภาวะติดยาแต่กำเนิด จะมีอาการร้องไห้มากผิดปกติ เป็นไข้ หงุดหงิดได้ง่าย หายใจเร็วหรือหยุดหายใจ มีปัญหาในการนอน ช็อค ตัวสั่น อาเจียน เหงื่อออก กินนมได้น้อย รวมไปถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
คุณแม่ท้องควรงดการใช้ยารักษาโรคบางชนิด เนื่องจากยาอาจจะไปส่งผลกระกับทารกในครรภ์ได้ หากคุณแม่มีการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ควรปรึกษากับแพทย์ที่ฝากครรภ์เพื่อประเมินความเสี่ยงว่าควรงดใช้ยา หรือสามารถใช้ต่อไปได้
ตัวอย่างยารักษาโรคที่คุณแม่ท้องไม่ควรรับประทาน:
• กลุ่มยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และไอบูโพรเฟน
• ยาสมุนไพร
• กลุ่มยารักษาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน หรือกลุ่มยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE Inhibitor)
• ยาลดไข้บางชนิด
• ยาลดสิวบางชนิด
การเล่นเครื่องในส่วนสนุกที่มีลักษณะเหวี่ยง หมุน หรือเคลื่อนที่เร็ว เช่น รถไฟเหาะ เครื่องเหวี่ยงหมุนชนิดต่าง ๆ เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของเครื่องเล่นอาจจะทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ซึ่งเป็นสาเหตุของการคลอดก่อนกำหนด และอาจจะทำให้อาการแพ้ท้องของคุณแม่แย่ลงอีกด้วย