เช็กอาการโรค PTSD ภาวะเครียดซึมเศร้าหลังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

       PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder) หรือ โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ เป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นหลังจากเผชิญเหตุการณ์รุนแรง เช่น อุบัติเหตุใหญ่ การถูกทำร้ายร่างกาย ภัยธรรมชาติ เหตุการณ์ที่คุกคามชีวิต หรือแม้แต่การสูญเสียบุคคลสำคัญอย่างกะทันหัน บาดแผลทางใจเหล่านี้อาจทิ้งรอยความเจ็บปวดที่ฝังลึกจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากไม่เข้าใจและไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ตามมาได้

       บทความนี้จะพาคุณทำความรู้จัก PTSD ให้ลึกขึ้น ทั้งสาเหตุ สัญญาณเตือน การวินิจฉัย และแนวทางการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง



PTSD คืออะไร?

       PTSD คือภาวะที่สมองและจิตใจตอบสนองต่อเหตุการณ์รุนแรงที่กระทบอย่างฉับพลัน ทำให้เกิด “ความทรงจำฝังลึก” ที่คอยย้อนกลับมาเหมือนเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ ผู้ป่วยมักไม่สามารถสลัดภาพ เหตุการณ์ หรือความรู้สึกหวาดกลัวออกไปได้ ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ การนอน การทำงาน และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

       หลายคนเข้าใจผิดว่า PTSD เกิดเฉพาะกับทหารผ่านศึกหรือผู้ประสบภัยร้ายแรงเท่านั้น แต่ความจริงคือ ใครก็สามารถเกิด PTSD ได้ หากเหตุการณ์นั้นทำให้เกิดความกลัวสุดขีด รู้สึกสิ้นหวัง หรือรู้สึกว่าชีวิตถูกคุกคาม


สาเหตุของการเกิด PTSD

ภาวะ PTSD เกิดจาก เหตุการณ์ที่สร้างความเครียดสูงอย่างฉับพลัน เช่น

      อุบัติเหตุรุนแรง / อุบัติเหตุรถยนต์

      การถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ

      เหตุการณ์ความรุนแรง เช่น ปล้น ทำร้าย พยายามฆ่า

      ภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟไหม้

      การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

      การถูกคุกคามหรือถูกล่วงละเมิด

      เหตุการณ์สะเทือนใจในวัยเด็กที่ฝังลึก

แม้เหตุการณ์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สมองยังคงจำความกลัวนั้นไว้ ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมานานเป็นเดือนหรือเป็นปี


PTSD มีอาการอย่างไร? (สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม)

อาการ PTSD แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. การหวนคิดถึงเหตุการณ์ (Re-experiencing)

      เห็นภาพเหตุการณ์ซ้ำในหัว

      ฝันร้ายซ้ำ ๆ

      รู้สึกเหมือนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกครั้ง (Flashback)

      หวาดกลัว ตกใจง่าย


2. การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น (Avoidance)

      หลีกเลี่ยงสถานที่ คน หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์

      ไม่อยากพูดหรือคิดถึงเรื่องนั้น

      แยกตัว ไม่เข้าสังคม


3. อารมณ์และความคิดเปลี่ยนไป (Negative Mood)

      รู้สึกผิด โทษตัวเอง

      มองโลกในแง่ร้าย

      หมดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบ

      ชาเฉยทางอารมณ์


4. อาการกระตุ้นที่มากเกินไป (Hyperarousal)

      นอนไม่หลับ

      หงุดหงิด โมโหง่าย

      สมาธิสั้น ใจสั่น ตกใจง่าย

      ระวังตัวเกินปกติ

หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน และส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


PTSD อันตรายแค่ไหน?

หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา PTSD อาจนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ เช่น

      โรคซึมเศร้า

      วิตกกังวลเรื้อรัง

      การใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์เพื่อหลีกหนีความเครียด

      นอนไม่หลับเรื้อรัง

      ความสัมพันธ์กับครอบครัวหรือคู่รักมีปัญหา

      ความเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองหรือคิดสั้น

ดังนั้นการพบแพทย์เฉพาะทางด้านจิตเวชตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ได้ดีมาก


การวินิจฉัย PTSD ทำอย่างไร?

แพทย์จะประเมินจาก

      ประวัติเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ

      ชุดแบบประเมินมาตรฐาน

      อาการที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

      ระยะเวลาการเกิดอาการ

      การซักถามสภาวะทางอารมณ์และพฤติกรรม

การตรวจต่าง ๆ ไม่เจ็บ และเป็นการพูดคุยเพื่อประเมินอย่างละเอียด


แนวทางการรักษา PTSD

1. จิตบำบัด (Psychotherapy)

เป็นวิธีหลักในการรักษา ได้แก่

      CBT (Cognitive Behavioral Therapy)

      Exposure Therapy

      EMDR (Eye Movement Desensitization and Reprocessing)

ช่วยปรับความคิดใหม่ ลดความหวาดกลัว และคลายความทรงจำร้ายแรงที่ฝังลึก


2. ยารักษา

      ยากลุ่มต้านซึมเศร้า

      ยาคลายกังวลบางชนิด


3. การดูแลตัวเองร่วมกับแพทย์

      พักผ่อนให้เพียงพอ

      ออกกำลังกายเบา ๆ

      ทำสมาธิหรือหายใจช้า ๆ

      พูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้

      หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และสารเสพติด


PTSD รักษาหายไหม?

       ข่าวดีคือ PTSD สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้อย่างมาก หากเริ่มรักษาตั้งแต่ช่วงแรก พร้อมได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพจิต การบำบัดช่วยให้สมองฟื้นฟูและจัดการกับความทรงจำรุนแรงได้ดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ


เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

      เริ่มมีอาการนอนไม่หลับ หวาดกลัว เห็นภาพเหตุการณ์ซ้ำ

      ส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือความสัมพันธ์

      รู้สึกหมดหวัง โทษตัวเอง หรือคิดทำร้ายตัวเอง

      อาการยังคงอยู่นานกว่า 1 เดือน

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ อย่ารอให้แย่ลง การพบแพทย์เร็วเท่าไหร่ “ใจ” ก็จะฟื้นกลับมาได้เร็วเท่านั้น


       PTSD คือโรคทางใจที่เกิดขึ้นหลังประสบเหตุการณ์รุนแรง แม้เหตุการณ์จะผ่านไปแต่ความกลัวยังหลงเหลือในจิตใจ การสังเกตอาการและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องจากแพทย์เฉพาะทาง จะช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและสมดุลอีกครั้ง หากคุณกำลังมองหาการดูแลจากแพทย์เฉพาะทางด้านสุขภาพจิต ช่วยให้คุณก้าวผ่านความเจ็บปวดทางใจอย่างปลอดภัยและอ่อนโยน