ถ้าพูดถึงโรคที่ผู้หญิงควรใส่ใจเป็นพิเศษ หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้น มะเร็งปากมดลูก เพราะนี่คือโรคที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งที่จริงแล้ว มะเร็งชนิดนี้สามารถ ตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และมีทางป้องกันได้ด้วย หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงบอกว่าแค่เกิดเป็นผู้หญิงก็เสี่ยงแล้ว? เหตุผลก็เพราะว่า ผู้หญิงทุกคนมีโอกาสติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกนั่นเอง
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่ (มากกว่า 90%) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) โดยเฉพาะสายพันธุ์เสี่ยงสูง เช่น HPV-16 และ HPV-18 ซึ่งเชื้อนี้ติดต่อกันได้ง่ายผ่านทางเพศสัมพันธ์
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง เช่น
● มีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
● ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
● การสูบบุหรี่
● ไม่เคยตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเลย
พูดง่าย ๆ คือ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นดูแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ก็ยังมีโอกาสเสี่ยงอยู่ดี
ความน่ากลัวของมะเร็งชนิดนี้คือ “ระยะแรกแทบไม่มีอาการ” หลายคนจึงไม่รู้ตัว กว่าจะตรวจพบก็อาจเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว แต่หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็กทันที
● ประจำเดือนออกผิดปกติ หรือมามากกว่าปกติ
● มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
● ตกขาวมีกลิ่นแรง สีผิดปกติ หรือมีเลือดปน
● ปวดท้องน้อยบ่อย ๆ
● รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายเวลามีเพศสัมพันธ์
คำตอบคือ “สำคัญมาก” เพราะการตรวจช่วยค้นหาความผิดปกติได้ตั้งแต่ก่อนกลายเป็นมะเร็งจริง ๆ
วิธีตรวจที่ใช้กันบ่อย เช่น
● Pap smear : เก็บเซลล์จากปากมดลูกมาตรวจหาความผิดปกติ
● HPV DNA test : ตรวจหาเชื้อ HPV โดยตรง แม่นยำมากกว่าการตรวจแบบเดิม
● VIA : ใช้น้ำส้มสายชูเจือจางทาที่ปากมดลูก เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
โดยทั่วไป แนะนำให้ผู้หญิงอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองเป็นประจำทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจและคำแนะนำของแพทย์
แม้ว่า มะเร็งปากมดลูก จะเป็นภัยเงียบ แต่เราสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วย 2 วิธีหลัก ๆ
1. ฉีดวัคซีน HPV
● ป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์เสี่ยง
● เหมาะกับเด็กผู้หญิงและผู้ชายวัย 9–26 ปี แต่จริง ๆ แล้วคนอายุ 27–45 ปีก็ยังสามารถฉีดได้
2. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
● เพราะถึงแม้จะฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงจากเชื้อสายพันธุ์อื่นอยู่
นอกจากนี้ การดูแลตัวเอง เช่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง งดสูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
Q: มะเร็งปากมดลูกอันตรายไหม?
A: อันตรายแน่นอนค่ะ แต่หากตรวจพบในระยะแรก โอกาสรักษาหายเกือบ 100%
Q: ฉีดวัคซีน HPV แล้วต้องตรวจคัดกรองอีกไหม?
A: ต้องตรวจค่ะ เพราะวัคซีนป้องกันได้บางสายพันธุ์ ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด
Q: ถ้าไม่มีเพศสัมพันธ์เลย จะเสี่ยงไหม?
A: ความเสี่ยงน้อยกว่ามาก แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นศูนย์ ดังนั้นยังควรตรวจคัดกรองตามคำแนะนำแพทย์อยู่ดี
เพียงเพราะเรา เกิดเป็นผู้หญิง ก็มีความเสี่ยง “มะเร็งปากมดลูก” ติดตัวมาด้วย แต่ข่าวดีคือ โรคนี้สามารถ ป้องกันได้ และ ตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรก
● อย่ารอให้อาการมาเตือน เพราะอาจสายเกินไป
● เริ่มปกป้องตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วย การฉีดวัคซีน HPV และตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ
เพราะสุขภาพของเรา…รอไม่ได้