แน่นอนว่าหลังจากการผ่าตัดกระดูกสันหลังจากปัญหาเส้นประสาทไขสันหลังถูกกดทับหรือการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลัง ผู้ป่วยจะสามารถลุกขึ้นยืน และสามารถเริ่มฝึกเดินเองได้ในช่วงวันที่ 2-3 ภายหลังการผ่าตัด โดยอาจมีอาการปวดแผลอยู่บ้าง ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังการผ่าตัด สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการการกินยา
โดยปกติแล้ว ผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้ระยะเวลาฟื้นตัวหลังการผ่าตัดแตกต่างกัน บางรายที่ได้รับการผ่าตัดกระดูกสันหลังเพียงระดับเดียวจะฟื้นฟูสภาพได้เร็ว แต่ในรายที่มีการผ่าตัดหลายระดับหรือเสริมโลหะดามกระดูกสันหลัง อาจจะต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูสภาพร่างกายนานขึ้น
หลังผ่าตัดหากผู้ป่วยมีภาวะแขนขาอ่อนแรง (Neurological Deficit) แพทย์จะพิจารณาส่งทำกายภาพบำบัดหรือกิจกรรมบำบัดก่อนให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ
นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมโดยให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การเตรียมสิ่งแวดล้อมให้ผู้ป่วยเมื่อผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้าน สำหรับครอบครัว หรือผู้ดูแลก็เป็นเรื่องสำคัญ
โดยส่วนใหญ่แล้วแผลผ่าตัดจะสามารถถูกน้ำได้เมื่อแผลหายสนิทดีแล้ว ซึ่งช่วงหลังการตัดไหม ถ้าแผลติดดีไม่มีอาการอักเสบ (อาการปวด บวม แดง ร้อน) หลังตัดไหม 3 วัน บริเวณนั้นจะสามารถถูกน้ำได้ โดยควรใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง และห้ามใช้แป้งหรือโลชั่นทาบริเวณแผล ในกรณีที่เป็นไหมละลาย (ไม่ต้องตัดไหม) แพทย์จะเปิดแผลภายใน 7-14 วัน หลังการผ่าตัด หลังจากนั้นอีก 3 วัน แผลสามารถถูกน้ำได้ ทั้งนี้แผลผ่าตัดในแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ในรายที่แผลหายช้าอาจเนื่องมาจาก ความแข็งแรงของผู้ป่วย อายุหรือ โรคประจำตัวบางชนิดของผู้ป่วยที่มีผลทำให้แผลหายช้า เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
การผ่าตัดกระดูกสันหลังบางชนิดอาจจะจำเป็นต้องใส่อุปกรณ์พยุงกระดูกสันหลังซึ่งโดยทั่วไปจะได้รับคำแนะนำให้ใส่ไว้ 1-2 เดือนหลังการผ่าตัด หรือตามแพทย์สั่ง
นอกจากการดูแลตัวเองแล้ว ยังมีกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ควรทำ เช่น การก้มตัว หรือแอ่นหลังมากๆ เป็นประจำ ไม่ควรยก ลาก หรือแบกของหนักเกิน 4 กิโลกรัม ไม่เอื้อมหยิบของบนที่สูง เป็นเวลาอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และไม่แนะนำให้เล่นกีฬาที่อาจมีการปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์หลังการผ่าตัด สำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถยังไม่แนะนำให้ขับรถ หรือซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ หรือขับรถทางไกล อย่างน้อย 6-8 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
ควรเดินออกกำลังกายโดยเพิ่มระยะทางการเดินให้มากขึ้นในแต่ละวัน พร้อมสวมรองเท้าที่มีส้นนุ่มรองรับการกระแทกขณะเดินหรือออกกำลังกาย ในกรณีที่แผลหายดีแล้วแต่ยังมีอาการตึงที่บริเวณหลัง ให้ออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อตามคำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัด