ก่อนจะพูดกันถึงเรื่องของการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม เราต้องเข้าใจก่อนว่าโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นเกิดจากการที่ผิวของข้อเข่าซึ่งเป็นกระดูกอ่อนเริ่มสึกหรอ ทำให้ผิวข้อไม่เรียบ เกิดการเสียดสีระหว่างข้อ ทำให้น้ำหล่อเลี้ยงข้อไม่สามารถหล่อลื่นข้อได้ดีเหมือนเดิม จึงเกิดอาการติดขัด ฝืด ตึง การรับน้ำหนักของกระดูกผิวข้อเริ่มผิดปกติ ผู้ป่วยหลายคนจึงรู้สึกปวดเข่า เข่าเริ่มมีเสียงดังก๊อบแกร๊บ ใช้ชีวิตประจำวันลำบากมากขึ้น ซึ่งถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ซึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนที่มีอาการเหล่านี้แต่ไม่อยากรักษาก็เพราะว่า ‘กลัว’ กลัวว่าจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม กลัวว่าจะใช้ชีวิตไม่ได้เหมือนเดิม เลยเลือกที่จะยอมทนปวด โดยไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมแบบนั้นยิ่งจะทำให้ความเสื่อมนั้นรุนแรงมากขึ้น ซึ่งความเป็นจริงแล้วการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นไม่จำเป็นจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเสมอไป เพราะหากไม่ได้เป็นในขั้นรุนแรง ก็ยังมี ‘การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม’ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
อย่างที่บอกว่าการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมเสมอไป เพราะยังมีอีกหลากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีที่มีผลการวิจัยรองรับว่ามีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดได้ นั่นก็คือ การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียม ซึ่งโดยปกติในข้อเข่าของเราทุกคนจะมีน้ำเลี้ยงข้อที่มีส่วนประกอบหลักเป็น Hyaluronic Acid ที่มีลักษณะข้นหนืดและใส ทำหน้าที่ช่วยหล่อลื่นผิวข้อ และลดแรงกระแทกทำให้เราเดินหรือวิ่งได้โดยไม่ติดขัด แต่ในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น น้ำเลี้ยงข้อนี้จะมีความหนืดน้อยลง ทำให้การหล่อลื่นหรือดูดซับแรงกระแทกได้ไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้เวลาเดินหรือทำกิจกรรมต่างๆ ทำได้ลำบากหรือติดขัดมากขึ้น
ดังนั้นการฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมหรือ Hyaluronic Acid ที่ผลิตเลียนแบบคุณสมบัติน้ำเลี้ยงข้อตามธรรมชาติเข้าไปในข้อเข่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหล่อลื่นและช่วยดูดซับแรงกระแทกมากขึ้น พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวข้อให้เกิดการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงข้ออีกด้วย
ซึ่งในประเทศไทยนั้นมียาฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียมอยู่หลายชนิด โดยแยกประเภทตามน้ำหนักโมเลกุล ในปัจจุบันฉีดเพียง 1 เข็มแค่ครั้งเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวก ผู้ป่วยไม่ต้องเจ็บตัวจากการฉีดยาหลายครั้ง และผลการรักษาอยู่ได้นาน 6-12 เดือน