มะเร็งคือโรคร้ายที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ หากมีคนในครอบครัว หรือญาติสายตรงมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง บุคคลนั้นอาจมีความเสี่ยงและมีแนวโน้มจะเกิดโรคมะเร็งสูงกว่าคนทั่วไปที่มียีนปกติ รวมทั้งยังส่งผลให้สามารถเกิดโรคมะเร็งได้ตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งปัจจัยที่จะส่งเสริมทำให้เกิดความผิดปกตินี้ส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอก และอีกส่วนมาจากพันธุกรรม ฉะนั้นการตรวจพันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ก่อมะเร็งจึงมีประโยชน์ในการบอกโอกาสในการเกิดโรค ทำให้สามารถหาทางป้องกัน รับมือ และปรับการใช้ชีวิตให้ห่างไกลความเสี่ยงต่อโรคนั้น ๆ เพื่อลดความเสี่ยงให้กับตัวเอง และทายาทได้
พันธุกรรม (Heredity) คือ การถ่ายทอดลักษณะต่างๆ มาจากสิ่งมีชีวิตรุ่นก่อนหน้า หรือรุ่นพ่อแม่ โดยถ่ายทอดลักษณะเหล่านั้นส่งต่อไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้ หรือรุ่นลูกหลาน โดยอาจเรียกอีกอย่างว่า กรรมพันธุ์ โดยที่มียีน (Gene) ที่อยู่ภายในเซลล์ร่างกายคอยควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของพันธุกรรมให้มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสีผิว เส้นผม ความสูง รวมถึงการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ หรือแม้แต่ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคก็ล้วนเป็นผลมาจากพันธุกรรมทั้งสิ้น
โรคมะเร็ง คือ เซลล์ที่ผิดปกติในร่างกายที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตรวดเร็วเกินปกติโดยที่ร่างกายควบคุมไม่ได้ ซึ่งปัจจัยที่จะส่งเสริมทำให้เกิดความผิดปกตินี้แบ่งเป็น ประมาณ 90% เป็นปัจจัยภายนอก เช่น พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ได้รับสารพิษในสิ่งแวดล้อม หรือการติดเชื้อบางชนิด เป็นต้น กับอีกประมาณ 10% เป็นปัจจัยภายในคือ ได้รับกรรมพันธุ์ที่เสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งมาจาก บรรพบุรุษของเราเองทำให้เซลล์ในร่างกายมีแนวโน้มที่จะเกิดมะเร็งได้สูงกว่าคนทั่วไป เช่น ถ้ามีกรรมพันธุ์ของมะเร็งเต้านม BRCA ซึ่งจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมได้สูงถึง 80% เป็นต้น
การตรวจกรรมพันธุ์ก่อมะเร็ง ทำได้ง่ายๆ เพียงเจาะเลือด 1 หลอด ไปตรวจในห้องปฏิบัติการที่ได้การรับรองมาตรฐาน และจะได้ผลกลับมา ประมาณ 3 สัปดาห์ มะเร็งที่เลือกตรวจมักเป็นมะเร็งที่อัตราการเกิดมะเร็งโอกาสถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์สูง เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งไทรอยด์ มะเร็งกระเพาะอาหารมะเร็งตับอ่อน มะเร็งไต มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งผิวหนังเม็ดสี เป็นต้น
ถ้าผลออกมาว่าพบกรรมพันธุ์ก่อมะเร็ง มีวิธีการป้องกัน หรือรักษามะเร็งได้ดังนี้
แต่ถ้าผลออกมาว่าไม่พบกรรมพันธุ์ก่อมะเร็ง ไม่ได้หมายถึงจะไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งเลย เนื่องจากสาเหตุมะเร็งอาจจะเกิดจาก ปัจจัยภายนอกได้ ดังนั้นท่านจึงยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเทียบเท่ากับคนทั่วไป เพียงแต่ไม่สูงเท่ากับคนที่มีกรรมพันธุ์ก่อมะเร็งในครอบครัว
อย่างไรก็ตามการมีกรรมพันธุ์ก่อมะเร็ง เป็นการบอกว่าคุณมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นมะเร็งแน่นอน 100% โดยที่สำคัญคือหากทราบแล้วต้องปฏิบัติตัวให้เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ และหมั่นตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งชนิดนั้นๆ อย่างสม่ำเสมอ