5 เทคนิค ฉลองเทศกาลตรุษจีน ‘กินได้ไม่กลัวอ้วน’

เทศกาลตรุษจีน ถือเป็นช่วงเวลาเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ของปี ที่ชาวจีนจะได้เฉลิมฉลองกับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ใช้เวลารับประทานอาหารร่วมกัน โดยอาหารจำนวนมากมักถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้ เพื่อแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน ทำให้ยากต่อการหลีกเลี่ยงอาหารมากมายที่ญาติพี่น้องนำมารับประทานได้ เพื่อให้ทุกเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนอย่างดีต่อสุขภาพ เราจึงมีเทคนิคการรับประทานอาหารตาม หลัก  Intuitive eating มาแนะนำ เพื่อให้ทุกคนยังสามารถรักษาสุขภาพและน้ำหนักตัวให้คงที่ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับเทศกาลตรุษจีนอย่างมีความสุข

Intuitive eating

 หรือการกินตามสัญชาตญาณของร่างกาย หมายความว่าเราสามารถกินอาหารทุกอย่างตามที่ต้องการได้ โดยฟังเสียงของร่างกายและจิตใจ ไม่ต้องอดอาหาร แต่เลือกให้เหมาะสม ทั้งประเภทและปริมาณ โดยเป็นการกินที่เน้นความสุขและดีต่อสุขภาพ โดย 5 เทคนิค Intuitive eating มีดังต่อไปนี้

1.กินเมื่อหิว

เมื่อรู้ว่าต้องไปรับประทานอาหารมื้อใหญ่ หลายคนมักรับประทานอาหารเพียงน้อยนิดหรือแม้กระทั่งอดอาหาร แต่ถ้าเราจำกัดการบริโภคอาหารมากเกินไป ความอยากอาหารจะเข้ามาแทนที่ความหิว ทำให้ความยับยั้งชั่งใจลดลง และอาจเผลอรับประทานอาหารมากเกินไปได้ ดังนั้นเราควรเคารพสัญญาณของร่างกาย และรับประทานอาหารตามเวลาเมื่อรู้สึกหิวซึ่งจะช่วยให้ควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารได้ดีกว่าการไปร่วมงานเลี้ยงแบบหิวโหย

2.ไม่มองอาหารเป็นศัตรู

แทนที่จะคิดว่าอาหารชนิดใด "ดี" หรือ "ไม่ดี" ให้คิดว่าอาหารเป็นสิ่งที่ให้พลังงานและสารอาหารแก่ร่างกายของเรา นำมาซึ่งความสุขและความอิ่มเอมใจ และยังเป็นสื่อกลางเพื่อใช้พบปะสังสรรค์ระหว่างญาติพี่น้อง ฉะนั้นให้ฟังเสียงที่ร่างกายบอกว่ารู้สึกอยากลองชิมอาหารจานใด และตักมาในปริมาณที่เหมาะสม จากนั้นค่อย ๆ ชิมและรับรู้รสชาติของอาหารที่ได้ลองไป การรับประทานอย่างช้าๆ จะช่วยสร้างความรู้สึกอิ่มทั้งที่รับประทานอาหารไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

3.รับรู้ความสุขที่เกิดจากอาหาร

สมมติว่าเราอยากรับประทานขนมหวานสักถ้วย แต่เรารู้สึกว่าไม่ควรรับประทาน เราจึงหันไปรับประทานผลไม้แทน แต่การรับประทานผลไม้กลับไม่ทำให้รู้สึกพึงพอใจ หากปราศจากความพอใจ แม้เราจะอิ่มกาย แต่อาจไม่รู้สึกอิ่มใจ เมื่อเวลาอาจจะผ่านไปหลายวัน หรือหลายชั่วโมง ความอยากรับประทานขนมหวานถ้วยนั้นอาจยังคงอยู่ และสุดท้ายเราก็ยอมแพ้ และรับประทานขนมหวานดั่งเป็นอาหารมื้อสุดท้ายเพื่อให้คลายความอยากรับประทาน แต่สุดท้ายกลับตามมาด้วยความรู้สึกผิดที่เราไม่สามารถควบคุมแรงกระตุ้นของตัวเองได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก เราควรฟังเสียงร่างกายที่อยากรับประทานขนมถ้วยนั้น ค่อยๆ ลิ้มรสชาติ และสัมผัสกับความสุขที่อาหารนำมาให้เราอย่างเพลิดเพลิน การฟังเสียงภายในใจที่พูดว่า "ฉันมีความสุข ขอบคุณ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว" ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอาหาร และป้องกันการรับประทานมากเกินไปในภายหลัง (Binge eating) ได้

4.จดจ่อกับอาหารตรงหน้า

แม้ว่าจะรายล้อมด้วยญาติพี่น้องมากมาย และการพูดคุยที่ไม่มีวันสิ้นสุด แต่การมีสติ และตระหนักรู้ขณะกำลังรับประทานอาหาร ตามหลัก Mindful eating ช่วยให้ควบคุมการรับประทานอาหารได้ดีขึ้น โดยรับรู้ตัวเองทั้งในขณะตัก เคี้ยว และกลืนอาหาร และเพิ่มประสาทสัมผัสด้วยการสังเกตสีสัน กลิ่น เนื้อสัมผัส และรสชาติของอาหาร ก็สามารถช่วยให้รู้สึกพึงพอใจกับอาหารมากขึ้น และรับรู้ถึงความอิ่มได้เร็วขึ้นได้เช่นกัน

5.รับรู้ถึงความอิ่ม

การรับฟังร่างกายของเราเป็นหัวใจสำคัญของ Intuitive eating เพราะช่วยให้เราไม่เผลอรับประทานอาหารมากเกินไป สังเกตความรู้สึกของร่างกายที่บอกว่าเริ่มรู้สึกอิ่ม โดยการรับประทานช้า ๆ หรือหยุดพักสักครู่ระหว่างรับประทานอาหาร เพื่อตรวจสอบความรู้สึกหิวอิ่มของร่างกายว่าเราควรรับประทานต่อหรือว่าหยุด