โรคไข้กาฬหลังแอ่น

ไข้กาฬหลังแอ่น (Meningococcal Disease) คือโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียที่สามารถติดต่อได้ผ่านสารคัดหลั่ง โดยระยะของการติดเชื้อนั้นจะรวดเร็วอย่างมาก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้เสียชีวิตได้ในระยะเวลาที่เร็วเกินคาด และถึงแม้จะรับการรักษาก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ไม่ว่าจะเป็นการพิการ และการเสียชีวิตจากการรักษาที่ช้าเกินไป

 ไข้กาฬหลังแอ่นคือโรคอะไรเกิดจากอะไร

โรคนี้ เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรีย “ไนซีเรีย เมนิงไจทิดิส (Neisseria meningitides)” ซึ่งถือว่าเป็นเชื้อโรคที่สามารถติดต่อกันได้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นการไอ จาม หรือพูดง่าย ๆ คือ “สารคัดหลั่ง” นั่นเอง โดยจุดเริ่มต้นของเชื้อนี้เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย แน่นอนว่ามีหลายกรณี เช่น ร่างกายมีปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน ทำให้แบคทีเรียดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น และกลายเป็นพาหะของเชื้อแบคทีเรียในที่สุด ยิ่งถ้าหากผู้ที่เป็นพาหะเดินทางไปยังพื้นที่แออัด จะยิ่งมีโอกาสแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งมักพบอยู่ 2 ชนิด คือ

ไข้กาฬหลังแอ่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง ส่งผลให้เกิดการอักเสบที่สมอง และส่งผลถึงกระดูกสันหลังด้วย

ไข้กาฬหลังแอ่นติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด เมื่อเลือดไหลเวียนไปตามร่างกายจึงเกิดผลเสียตามมาทำให้ผนังเลือดเสียหาย และเลือดออกตามอวัยวะต่าง ๆ ได้

 

อาการที่น่ากลัวจากไข้กาฬหลังแอ่น

จากที่เกริ่นไปก่อนแล้วถึงอันตรายของโรคนี้ แต่ความน่ากลัวทั้งหมดนั้นไม่ได้มีเพียงแค่นั้นแน่นอน นอกจากโรคนี้จะติดต่อกันได้ และมีอันตรายต่อร่างกายในระดับรุนแรงแล้วการแพร่กระจายของเชื้อในร่างกายนั้นยังรวดเร็ว และเฉียบพลันเป็นอย่างมาก และเป็นได้ทุกเพศ ทุกวัยอีกด้วย โดยอาการสำคัญ ๆ ที่แสดงออกมา จนสามารถสังเกตได้มีดังนี้

- มีไข้สูง และอาเจียน

- มีผื่นสีคล้ำเกิดขึ้นตามร่างกาย

- บางรายอาจมีอาการคอแข็ง และหลังแอ่น

แต่สิ่งที่น่ากลัวอยู่ตรงที่ในเด็กเล็กจะมีโอกาสเกิดไข้กาฬหลังแอ่นที่เยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ และยังสังเกตอาการได้ยากอีกด้วยหากเด็กเล็กมีอาการอาเจียน ไม่ค่อยตอบสนอง กินนมได้น้อยลง ควรรีบพามาพบแพทย์ทันที ส่วนไข้กาฬหลังแอ่นที่ติดเชื้อในกระแสเลือดจะส่งผลให้ผิวของผู้ป่วยกลายเป็นสีคล้ำได้ หากมีอาการที่เข้าข่ายก็ควรรีบเข้าพบแพทย์เช่นกัน

 

ไข้กาฬหลังแอ่นรักษาได้แต่ยังเสี่ยง

เมื่อเข้าพบแพทย์ และรับการตรวจวินิจฉัยจนมั่นใจแล้วว่าเป็นโรคร้ายดังกล่าวจริง ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว และเร่งด่วนที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่จ้องเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนนำไปสู่การเสียชีวิตได้ในที่สุด ในส่วนของการรักษาแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น แอมพิซิลลิน หรือเพนนิซิลลิน เป็นต้น ที่สำคัญนั้น ตลอดการรักษาแพทย์จะให้ความสำคัญกับการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ไปด้วย ซึ่งผลกระทบจากการรักษานั้นอาจเกิดขึ้นได้ และความรุนแรงของมันนั้นน่ากลัวมากเสียด้วย ได้แก่

- การพิการ กรณีสมองเกิดการติดเชื้อระหว่างการรักษาจะส่งผลต่อร่างกาย เช่น ตาบอด หูหนวก ระบบสมอง และประสาทในพื้นที่ส่วนกลางถูกทำลาย และอาจสูญเสียแขนขา ทำให้พิการในระยะยาวได้

- การเสียชีวิต ถึงแม้จะเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้วก็ตาม แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าโรคนี้รุนแรงมากแค่ไหน หากเข้ารับการรักษาไม่ทันจะทำให้เสียชีวิตได้  โดยในระดับรุนแรงจะมีระยะเวลาการติดเชื้อ จนเสียชีวิตใน 3 วันเท่านั้นเอง

 

อันตรายที่อาจถึงชีวิตแต่สามารถป้องกันได้

การป้องกันที่สามารถทำได้อย่างง่ายด้วยตนเองนั้นมีอยู่หลายวิธีทั้งการหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย หรือที่ชุมชน หากมีความจำเป็นต้องใกล้ชิด หรือไปพื้นที่ชุมชน ให้ดูแลความสะอาดของร่างกาย นอกจากนี้ยังสามารถรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคนี้ได้ในระดับเบื้องต้น แต่จงท่องไว้เสมอว่าการหลีกเลี่ยงจากความเสี่ยงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ และดีต่อเราที่สุดแล้ว

 

โรคที่น่ากลัวแบบนี้อาจพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก แต่ด้วยอันตรายในระดับนี้เราจึงไม่ควรมองข้าม การระวัง และการมีสติดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคไข้กาฬหลังแอ่นนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างปฏิเสธไม่ได้